
นักเรียนสาวที่ร้อยเอ็ดร้องสื่อแม่ฮุบ เ งิ น ชดเชยและค่าเยียว ย า จาก อุ บั ติ เ ห ตุ รถชนต้องตัดขา คู่กรณี จ่ า ย มา 5 แสน แม่ให้ป้าที่เลี้ยงดูมาแสนเดียว ตัวเองหอบ 4 แสนก ลั บ กทม. ไปอยู่กินกับ ส า มี ใหม่ อ้างว่จะรับลูกไปอยู่ด้วย จะเก็บ เ งิ น ไว้ให้เป็นค่าเล่าเรียน แต่ก ลั บ เบี้ยวทุกอย่าง สุดท้ายบอก เ งิ น หมด ตัดขาดการติดต่อ พอลูกสาวทวงเป็นข่าวออกสื่อ ก็สัญญาจะ จ่ า ย ให้ 2 แสน
เด็กสาวทุกข์หนัก รถชนขาขาด เคราะห์ซ้ำ แม่แท้ๆ หอบ เ งิ น เยียว ย า 4 แสนไปด้วย โดยให้ลูกสาวไว้เพียง 1 แสนบาท เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ผู้ เ สี ย หายคือ น.ส.ณฤทัย ผาพญาเรือง เด็กสาววัย 15 ปี เข้าร้องขอความช่วยเห ลื อ กับสื่อมวลชน โดย น้องณฤทัย เล่าให้ผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เธอกำลังขี่รถจักร ย า นยนต์ไปเติมน้ำมันแล้วก ลั บ เข้าบ้าน จังหวะนั้นมีรถยนต์คันสีดำขับปาดหน้า ทำให้รถของเธอ เ สี ย หลักล้มลงร่างเกระเด็นเข้าไปอยู่อีกช่องจราจร รถยนต์คันสีขาวที่วิ่งมาช่องทางนั้นเบรกไม่ทัน หยียบเข้าบริเวณขาข้างซ้ายของเธอ ทำให้สะโพกซ้ายแตก ขาข้างขวาหัก ปอดฉีก 2 ข้าง เธอ เ สี ย ขาข้างซ้ายไป และนอนพัก รั ก ษ า ในโรงพ ย า บาล 1 เดือน ค่า รั ก ษ า พ ย า บาล 1 แสน 8 หมื่นบาท ซึ่งแม่ของเธอที่ทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะ เขตสายไหม กรุงเทพฯ ได้ใช้สิทธิเบิก จ่ า ย ให้
ต่อมา วันที่ศาลนัดตัดสินคดี คนขับรถยนต์สีดำ ได้ จ่ า ย ค่าเยียว ย า 5 แสนบาท ซึ่ง เ งิ น จำนวนนี้แม่ของเธอเป็นผู้ถือไว้ นอกจากนั้น เ งิ น ประกันภัยรถยนต์ยัง จ่ า ย เพิ่ม 2 แสน 2 หมื่นบาท โดย เ งิ น ส่วนนี้ โ อ น เข้าบัญชีของน้องณฤทัย ทำให้หลังออกจากห้องตัดสิน น้องได้ขอ เ งิ น ค่าเยียวจากแม่มาเก็บไว้เป็นทุนเรียนหนังสือ แต่แม่ก ลั บ มอบให้เพียง 1 แสนบาท เท่านั้น
ส่วนที่เห ลื อ แม่ถือ เ งิ น ก ลั บ กรุงเทพไป 4 แสนบาท และให้คำสัญญากับน้องว่า จะพาน้องไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ น้องได้โทรคุยกับแม่ถามเรื่องรับน้องไปอยู่ด้วย สุดท้ายก ลั บ ได้รับคำปฏิเสธ และป้าที่เลี้ยงดูบอกว่า ไม่สามารถโทรหรือติดต่อแม่ได้ อีกทั้งไม่ได้รับ เ งิ น คืนจากแม่ น้องจึงอ ย า กขอวอนขอแม่ให้นำ เ งิ น เยียว ย า ที่รับไปก ลั บ มาคืน เพราะเธอจะเก็บไว้เป็นค่าเล่าเรียนในอนาคต รวมทั้งต้องใส่ขาเทียมแบบชั่วคราวเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งต้องเปลี่ยนขาเทียมใหม่ให้มาตรฐาน และยังต้องเปลี่ยนทุกปี
จากการไปพบ น.ส.ณฤทัย ที่บ้านใน ต.หมูม้น อ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด พบว่าอาศัยอยู่กับป้า นางระเบียบ ทางทอง อายุ 57 ปี โดย น.ส.ณฤทัย ผาพญาเรือง เปิดเผยว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง หลังเกิดเหตุ ตนเอง โ ด น ตัดขา 1 ข้าง และเมื่อสิ้นสุดกระบวนการทางศาล ได้รับ เ งิ น ชดใช้ 5 แสนบาท ปรากฏว่าแม่ซึ่งแยกทางกับพ่อไปมี ส า มี ใหม่อยู่ กทม. ลงมารับ เ งิ น ในส่วนที่รถคันที่ชนชดใช้ ไปทั้งหมด 5 แสนบาท และหลังจากนั้น โ อ น คืนมาที่ป้า ซึ่งเลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่แม่แยกทางจากพ่อ และพ่อก็ไปมีเมียใหม่ ต่างหมู่บ้าน ทิ้งให้ป้า ดู แ ล เลี้ยงมาจนโต ส่ง เ สี ย ให้เรียนหนังสือ และค่าใช้ จ่ า ย ทุกอย่างจนโต
แต่พอเกิด อุ บั ติ เ ห ตุ แม่ก ลั บ มารับ เ งิ น ไปทั้งหมด พอเรียกร้อง ก็เอา เ งิ น สดมาให้ 1 แสนบาท จากนั้นโทรไปทวง เ งิ น ที่เห ลื อ ก็ไม่คืน ต่อมาไม่รับโทรศัพท์ และไม่ทำตามที่รับปากว่าจะให้ตนไปอยู่ กทม.ด้วย แล้วจะใช้ เ งิ น ที่เห ลื อ 4 แสน ดู แ ล ทุกอย่าง จะเอาไว้ส่ง เ สี ย ตนเรียนหนังสือ และสุดท้ายก็บอกว่า เ งิ น หมดแล้ว เมื่อจะลงไปอยู่ด้วยก็ปฏิเสธ รวมทั้งหลังจากตนเองใส่ขาเทียมชั่วคราว และพอช่วยตนเองได้แล้วได้ขอ เ งิ น จะ ซื้ อ รถ จยย.ขี่ไปโรงเรียนเอง เพื่อลดภาระของป้าและลุง แม่รับปากจะให้ สุดท้ายก ลั บ ไม่ให้ จึงร้องเรียนสื่อเพื่อขอ เ งิ น คืน และสุดท้ายหลังเป็นข่าววันนี้แม่จึงติดต่อไป ซึ่งแม่บอกว่าขอให้ยุติเรื่องโดยจะ โ อ น คืนให้ 2 แสนบาท ภ า ย ใ น สิ้นเดือนนี้ เพื่อให้ทุกอย่างจบ
น.ส.ณฤทัย กล่าวว่าดีใจที่แม่ยินยอมคืน เ งิ น ให้ โดยไม่ติดใจที่หายไป 2 แสนบาท ถือว่าแบ่งให้แม่ แม้จะไม่มั่นใจว่า ถึงสิ้นเดือนแล้วแม่จะคืนจริงหรือไม่ แต่เมื่อแม่บอกก็เชื่อไว้ก่อนว่าแม่คงจะไม่โกหก ซึ่งสื่อถามว่า หากแม่ไม่ให้ จะฟ้องร้องแม่หรือไม่ ก็คงไม่ เพราะจิตสำนึกของคนเป็นลูกคงไม่สามารถที่จะไปฟ้องร้องแม่ได้ แม้แม่จะไม่ทำตามคำพูด ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องนำไปปรึกษาพ่อที่ไปมีเมียใหม่ และมีลูกเล็กๆ กับเมียใหม่แล้ว ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับภาระค่าใช้ จ่ า ย การเรียนหนังสือ การ ซื้ อ รถ จยย.และ ค่าใช้ จ่ า ย ต่างๆ ที่ป้าและลุงต้องรับภาระมาตลอด เมื่อมี เ งิ น ก็อ ย า กจะช่วยลดภาระป้าและลุงลงบ้าง
ขณะที่ป้า คือ นางระเบียบ ทางทอง กล่าวว่า เ งิ น 1 แสนบาทที่ได้มา นับว่าช่วยลดภาระของตนเองและ ส า มี ที่สิ้นเป ลื อ งเยอะมาก เพราะหลังจากหลายเกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ต้องเฝ้า ดู แ ล จนการเปิดร้านซ่อมรถเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งการเปิด ข า ย อาหารตามสั่ง ก๋วยจั๊บ ในหมู่บ้านก็ต้องหยุดหมดเพื่อมา ดู แ ล หลาน ที่เข้า รพ.และถูกตัดขา ต้อง ดู แ ล ใกล้ชิดทุกอย่าง
แม้แต่การรับส่งไปโรงเรียนก็ต้องทำ เพราะหลานคนนี้ตนเลี้ยงมาเหมือนลูก เ งิ น ที่ได้มา 1 แสนช่วยลดภาระได้ โดยที่ตนไม่ได้เอามาใช้ส่วนตัวเลย ส่วนการที่แม่รับปากว่าจะคืน เ งิ น ให้ โดยแบ่งจาก เ งิ น 4 แสน บาทครึ่งหนึ่งให้ลูก ก็นับเป็นเรื่องที่คงไม่มีทางเ ลื อ กที่ดีกว่านี้ แต่หากรับปากแล้ว แต่สุดท้ายไม่คืนให้ ก็คงไม่สามารถทำ อ ะ ไ ร ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่กับลูกที่จะต้องตัดสินใจ หรือให้พ่อเขาเป็นคนตัดสินใจ
ต่อมา น.ส.ณฤทัย ผาพญาเรือง ได้เดินทางไปที่บ้านของพ่อ คือ นายเกษมศักดิ์ ผาพญาเรือง ซึ่งอยู่กับแม่ใหม่ ที่ บ้านไผ่ ต.หมูม้น อ.ธวัชบุรี เพื่อแจ้งให้พ่อทราบว่า แม่รับปากจะคืน เ งิ น ให้ 2 แสนบาทแล้ว ภ า ย ใ น สิ้นเดือนนี้ เพื่อให้ลูกใช้สอยระหว่างเรียน รวมทั้ง ซื้ อ รถ จยย.ขี่ไปโรงเรียน แต่ก็ยังไม่สบายใจว่า แม่อาจจะรับปากด้วยความจำยอม เพื่อที่จะบอกให้ยุติข่าว ซึ่ง นายเกษมศักดิ์ กล่าวว่า ดีใจที่แม่คิดถึงหัวอกของลูกยอมคืน เ งิ น ที่เป็นของลูก และขอร้องว่าขอให้ทำตามคำพูด
ขอให้นึกถึงความเป็นแม่ที่จะต้องทำเพื่อลูกของตนเอง เพราะ เ งิ น ก็คือ เ งิ น ของลูกที่จะต้องใช้ทุกอย่างหลังจากต้องใช้ขาข้างหนึ่งไปแลกมา ควรจะสงสารลูกบ้าง ส่วนสิ่งที่ลูกมาปรึกษา คือเกรงว่าเมื่อถึงเวลาแล้วแม่อาจจะเบี้ยวไม่คืน เ งิ น ให้ลูกตามที่รับปากไว้ ก็คงจำเป็นที่จะจ้าง ท น ายฟ้องร้องเรียก เ งิ น คืนมาให้ลูกสาว ซึ่งต่อให้ตนไม่มี เ งิ น ก็จะต้องพ ย า ย า มไปหา แม้แต่ต้องกู้ยืมมาก็จะทำเพื่อฟ้องเอา เ งิ น ของลูกตามที่แม่รับปากไว้ก ลั บ คืนมา
#ร้อยเอ็ด