ปู่-ย่า ยึดหลานไม่ยอมให้ พ่อแม่ นำไปเลี้ยง

ศึกสายเ ลื อ ด ปู่ ย่า ยึดหลานไว้ ไม่ยอมให้ พ่อ แม่ นำก ลั บ ไปเลี้ยง อ้างผูกพันเพราะเลี้ยงมาแต่แบเบาะ ขณะที่พ่อ แม่ ต้องการ ป รั บ พฤติกรรมลูกที่มีพัฒนาการช้า ชอบเรียกร้องความสนใจ ท ะ เ ล า ะ กันบ้านแตก ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก ล่าสุดตกลงแบ่งกันเลี้ยงคนละ 15 วัน และพร้อมไปกราบขออภัยพ่อแม่ ยืนยันรักเคารพเหมือนเดิม

กรณี นายประกาศิตย์ อายุ 32 ปี และ น.ส.กุณฑิกา อายุ 31 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สามโก้ จ.อ่างทอง เพื่อเรียกร้องให้ นายอาดูลย์ โพธิ์กลั่น อายุ 57 ปี และ นางรัตนา โพธิ์กลั่น อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายประกาศิตย์ ยอมให้นำลูกชายวัย 2 ขวบ 6 เดือน ชื่อน้องมูซ่า ก ลั บ มาให้พ่อแม่เลี้ยงดูเอง เนื่องจากล่าสุดเดินทางไปเยี่ยมลูก พบว่าน้องมีพฤติกรรมผิดปกติ ชอบเรียกร้องความสนใจ ทำ ร้ า ย ตัวเอง

แม้แต่ตักข้าวเข้าปากยังผิดปกติ แต่พอขอเอาลูกก ลั บ มาเลี้ยงดูเอง ปู่ ย า ก ลั บ ไม่ยอมให้ พ ย า ย า มอ้อนวอนก็ไม่สำเร็จ แถมมีปาก เ สี ย งกันขั้นตัดพ่อตัดลูกกัน และไม่ให้มาเหยียบบ้านเกิดที่อ่างทองอีก สุดท้ายต้องพึ่ง ตำ ร ว จ และกฎหมายเข้าช่วย เพื่อให้ได้ลูกก ลั บ มาเลี้ยงดู ส่วนฝ่ายปู่-ย่า ยืนยันว่าจะไม่ส่งคืน เพราะรักและผูกพันกับหลาน เนื่องจากเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ

ล่าสุดเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายประกาศิตย์ โพธิ์กลั่น หรือมัด อายุ 32 ปี และ น.ส.กุณฑิกา พิมพ์มงคล หรือมิน อายุ 31 ปี ซึ่งทั้งคู่ทำงานอยู่ในเมืองพัท ย า จ.ชลบุรี โดยฝ่ายชายทำงานเป็นช่างเทคนิค บ.เคเบิลทีวี แ ห่ งหนึ่ง ส่วนฝ่ายหญิงทำงานเป็นลูกจ้างประจำบริษัทฯ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่มีข่าวปรากฏออกไป ผู้เป็นพ่อได้ติดต่อก ลั บ มา และมีการตกลงเจรจาว่าจะแบ่งกันเลี้ยงดูคนละ 15 วัน โดยจะเดินทางไ ป รั บ มาเลี้ยงที่พัท ย า ช่วงสิ้นเดือนมกราคมนี้ พร้อมทั้งยืนยันว่าเจตนาที่จะเอาลูกก ลั บ มาเลี้ยงดู เพราะต้องการเอาลูกมา ป รั บ พฤติกรรม หลังพบว่าน้องมีพัฒนาการช้าผิดปกติกว่าเด็กทั่วไป พวกตนยังรักและเคารพพ่อกับแม่เหมือนเดิม

ส่วนสาเหตุที่มีการไปแจ้งความ รวมถึงตระเวนขอคำปรึกษาจาก สนง.อัยการ ศาลครอบครัวและเ ย า วชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สาเหตุเกิดจากหลังจาก ค ล อ ด น้องก็พาลูกชายก ลั บ ไปฝากให้ปู่-ย่าที่จังหวัดอ่างทองเลี้ยงดู และมีการส่งค่าใช้ จ่ า ย ในการเลี้ยงดูตามปกติ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2564 จากนั้นถัดมา ในวันที่ 27 มิถุนายน ปี 2565 (ปีที่ ผ่ า นมา) ได้เดินทางก ลั บ ไปเยี่ยมลูก มีการพูดคุยกับปู่และย่าว่าจะขอน้องก ลั บ ไปเลี้ยงดูเอง แต่ถูกตอบปฏิเสธถึงขั้น ท ะ เ ล า ะ กัน แต่ครั้งนั้นไม่ รุ น แ ร ง

จนล่าสุดในวันขึ้นปีใหม่ได้เดินทางก ลั บ ไปอยู่กับลูก 4 วัน พบว่าน้องมีพฤติกรรมผิดปกติไม่เหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป เช่นเวลากินข้าวจะตักอาหารเข้าปากแบบตักเอาตักเอา ไม่ยอมเคี้ยว กลืนลงคอไปเลย จากนั้นก็จะอ้วกออกมา เวลาไม่ได้ดั่งใจตัวเองก็จะมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ทำ ร้ า ย ทุ บ ตีตัวเองอย่าง รุ น แ ร ง ประกอบกับสภาพความเป็นอยู่ของลูกจะถูกเลี้ยงอยู่ในคอกกั้นเด็กตลอดเวลา จึงทำให้ต้องตัดสินใจเด็ดขาด ในการนำลูกก ลั บ มาเลี้ยงดูเอง แต่พอไปคุยกับพ่อกับย่าก็ไม่ยอมอีก

ซึ่งในครั้งนี้ถึงขั้นมีปาก เ สี ย ง ท ะ เ ล า ะ กันอย่าง รุ น แ ร ง ตัดพ่อตัดลูก และยังถูก ไ ล่ ออกจากบ้าน ตอนนั้นยอมรับว่า โ ก ร ธ พ่อและแม่มากที่กีดกันเรื่องลูก อีกทั้งช่วงที่พา ตำ ร ว จ ไปเจรจาที่บ้าน พ่อกับแม่ยังพาหลานไปซ่อน ไม่ให้เจอหน้าลูก แถมถูก ด่ า ก ลั บ ไ ล่ ออกมา สุดท้ายตัดสินใจเดินทางไปขอความช่วยเห ลื อ จากหน่วยงานต่างๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องทำ เพราะเพียงอ ย า กได้ลูกก ลั บ มาเลี้ยง ดู แ ล ะ ป รั บ พฤติกรรมของลูกเท่านั้น และยังจะพาหลานก ลั บ ไปหาปู่กับย่าเหมือนเดิม

โดยนายประกาศิตย์ และ น.ส.กุณฑิกา พิมพ์มงคล พูดพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษปู่กับย่า ว่าไม่มีเจตนาจะล่วงเกิน ยังรักและเคารพเหมือนเดิม สิ่งที่ทำลงไปเนื่องจากหัวอกความเป็นพ่อและแม่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการเหมือนเด็กคนอื่นเขา ซึ่ง ต อ น นี้ ได้เริ่มจัดเตรียมสถานที่ไว้รอลูกก ลั บ มาอยู่ด้วยแล้ว ส่วนกรณีปู่กับย่าก็ยืนยันว่าจะแบ่งเวลาให้ปู่กับย่าได้เลี้ยงหลานอย่างแน่นอน

#หวงหลาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *