
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 นายสมพร แสนสะสม พร้อมด้วยนางคลองใจ แสนสะสม เจ้าของบ้าน เ ปิ ด ใ จ กับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ถึงกรณีที่มีลูกบ้านมา เ ช่ า บ้านอยู่ แล้วไม่ยอม จ่ า ย ค่า เ ช่ า เป็นเวลา 1 ปี ไ ล่ ก็ไม่ไปแถมยังแจ้งความ บุ ก รุกกับเจ้าของบ้านอีก
นายสมพร กล่าวว่า ผู้ เ ช่ า รายนี้มา เ ช่ า บ้านของตนเมื่อเดือนตุลาคม 64 โดยตนปล่อย เ ช่ า เดือนละ 6,000 บาท ซึ่งผู้ เ ช่ า ได้วางมัดจำ 2 เดือนจำนวน 12,000 บาท อาศัยอยู่ 1 คน ซึ่งตนก็ลองให้อยู่ก่อนโดยที่ยังไม่ได้ทำสัญญา
แต่พอครบ 2 เดือน ตนก็ไม่คิดที่จะให้ เ ช่ า ต่อเนื่องจากมีการเลี้ยงสุนัข จึงได้เก็บ เ งิ น ค่า เ ช่ า เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น แล้วขอให้ผู้ เ ช่ า ย้ายออก แต่ผู้ เ ช่ า ก ลั บ ไม่ยอมออกอ้างว่าไม่มี เ งิ น แล้วก็อาศัยอยู่บ้านของตนมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบัน โดยที่ไม่ยอม เ สี ย ค่า เ ช่ า จ่ า ย แต่ค่าน้ำค่าไฟเท่านั้น
โดยในช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 64 จนถึงเดือนมกราคม 66 ตนได้พ ย า ย า มขอให้ย้ายออก ทำทุกวิถีทางทั้งเคยเอากุญแจไปล็อกไม่ให้เข้าบ้าน จนผู้ เ ช่ า ขอโอกาสบอกว่าจะหา เ งิ น ค่า เ ช่ า มาให้ ตนก็ใจอ่อนเอากุญแจให้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ให้ค่า เ ช่ า เหมือนเดิม ตนก็ไปทวงที่หน้าบ้านซ้ำ ๆ จนถูกแจ้งข้อหา บุ ก รุกบ้านตัวเอง เนื่องจากผู้ เ ช่ า ไปแจ้งความที่สน.คันนา ย า ว
หลังจากนั้น ตำ ร ว จ ก็เรียกผู้ เ ช่ า มาเจรจากับตนนานกว่า 3 ชั่วโมงก็ได้ข้อสรุป โดย ตำ ร ว จ ทำบันทึกประจำวันให้เวลาผู้ เ ช่ า รายนี้อยู่ต่ออีก 2 เดือนแล้วค่อยย้ายออก ซึ่งก็เป็นอันตกลงกัน แต่จากนั้น พอออกจากสน.คันนา ย า ว ผู้ เ ช่ า ราย ดั ง กล่าวก ลั บ เดินเข้าไปหา ตำ ร ว จ แล้วบอกว่า สัญญาที่เซ็นเมื่อครู่เป็นโมฆะเพราะจะอยู่บ้านหลังนี้ต่อ แล้ว ตำ ร ว จ ก็ยอมให้เซ็นข้อตกลงว่าเป็นโมฆะ เ สี ย แบบนั้น
ตนก็ทำทุกทางทั้งไปแจ้งความกับกองปราบแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ยังเคยไปที่การไฟฟ้านครหลวง และการประปา เพื่อจะขอให้ตัดน้ำตัดไฟแต่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าหากไปถึงที่บ้านแล้วมีผู้พักอาศัยอยู่ ก็ยังไม่สามารถทำได้ ส่วนผู้ เ ช่ า รายนี้ก็ใช้ข้ออ้างแบบเดิมคือไม่มี เ งิ น จ่ า ย เมื่อ ตำ ร ว จ ถามว่าจะ จ่ า ย ค่า เ ช่ า บ้านเมื่อไหร่ ผู้ เ ช่ า ตอบว่า “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”
นางคลองใจ กล่าวต่อว่า ตนไม่ขอ อ ะ ไ ร มากเลย ขอเพียงแค่ย้ายออกไปโดยไม่ต้อง จ่ า ย ค่า เ ช่ า ที่ ค้ า งอยู่ก็ได้ เพราะ ต อ น นี้ รู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้านที่ต้อง ท น อยู่กับสภาพกลิ่นเหม็นจากบ้าน เนื่องจากว่าผู้ เ ช่ า รายนี้เลี้ยงสุนัขกว่า 10 ตัว แล้วยังเลี้ยงแมวหน้าบ้านด้วย ซึ่งไม่ รั ก ษ า ความสะอาด ทำให้ส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ข้างบ้านจำเป็นต้องย้ายออกเพราะ ท น กลิ่นไม่ไหว
โดยก่อนหน้านี้ผู้ เ ช่ า รายนี้เคยไป เ ช่ า บ้านอยู่ แล้วมีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน แต่เจ้าของบ้านหลัง ดั ง กล่าวหาบ้าน เ ช่ า ใหม่ให้ นั่นก็คือบ้านของตน แถมยอม จ่ า ย ค่า เ ช่ า 2 เดือนแรกให้ด้วย โดยที่ไม่ได้บอกว่าผู้ เ ช่ า รายนี้มีพฤติกรรมอย่างไร ซึ่งทีแรกตนคิดว่าน่าจะไม่มี อ ะ ไ ร เพราะเขานั่งรถเบนซ์มา ต อ น นี้ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ววอนขอให้ผู้ เ ช่ า รายนี้ย้ายออกไปที
ขณะที่น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้ เ ช่ า กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพ ค้ า ข า ย ออนไลน์ ซึ่ง ต อ น นี้ เจอปัญหาภาวะ ห นี้ สิน จึงทำให้ไม่มี เ งิ น จ่ า ย ค่า เ ช่ า บ้าน ซึ่งที่ ผ่ า นมาตนก็พ ย า ย า มจะหา เ งิ น มาตลอด แต่ยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ ผ่ า นมา ตนไม่ได้ จ่ า ย ค่า เ ช่ า บ้านเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าหากเจ้าของบ้านขอให้ย้ายออกโดยที่ไม่ต้อง จ่ า ย ค่า เ ช่ า บ้านที่ ค้ า งไว้ จะออกหรือไม่นั้น ด้านน.ส.เอ ตอบว่า การจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นก็ต้องใช้ เ งิ น จำนวนหนึ่ง ซึ่ง ต อ น นี้ ตนไม่มี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าต่อ หากเจ้าของบ้าน ให้ เ งิ น 10,000 บาท เพื่อให้เราย้ายออก ไปตั้งตัวใหม่ที่อื่น จะยอมออกหรือไม่ เจ้าตัวตอบก ลั บ มาว่า “หมื่นหนึ่งตั้งตัวได้เหรอคะ?”
อย่างไรก็ตามตนก็รู้สึก เ ค รี ย ด แล้วก็รู้สึกผิด แต่เมื่อไม่มี เ งิ น ก็ไม่รู้ว่าจะย้ายออกไปไหน ตนจะย้ายออกก็ต่อเมื่อมี เ งิ น จำนวนหนึ่งแล้ว ต อ น นี้ ก็รอ ข า ย ทรัพย์อยู่ ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นก็คง เ ค รี ย ด จน ฆ่ า ตัว ต า ย ไปแล้ว แต่ตนนั้นยังสู้ต่อ
ที่ ผ่ า นมาเจ้าของบ้านก็ได้มาต่อว่าตนหน้าบ้าน ประจานให้เพื่อนบ้านได้ยิน ตนก็รู้สึกอับอาย จนไม่กล้าคุยกับเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งนี้ตนยอมรับว่าไปแจ้งความเจ้าของบ้านในข้อหา บุ ก รุกจริง เนื่องจากเขาเข้ามาในบ้านที่ตนอาศัยอยู่
#ค้างค่าเช่า1ปี