
วันที่ 22 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถาม พระพยอมกัล ย า โณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กรณีพระอาจารย์อุทัย ฌานุตฺตโม หรือ (พระอาจารย์ติ๊ก) เจ้าอาวาสวัดป่าห้วยลาด ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ได้ทำพิธีปลุกเสกพระเครื่อง
.
โดยเป็นพระเครื่องรุ่นเจ้าสัวแสนล้าน รุ่นเศรษฐีสร้างโบสถ์ที่วัดป่าบ้าน ย า งน้อย ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยนำพระเครื่องมากองอยู่ตรงหน้า ก่อนทำพิธีอมน้ำมันแล้วพ่นไฟ ปรากฏว่าเกิดไฟลุกท่วมใบหน้าและเสื้อที่สวมใส่ ทำให้ได้รับ บ า ด เ จ็ บ และถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเหมาะสม
.
.
พระพยอม กล่าวว่า กรณีพระสงฆ์ปลุกเสกพระเครื่องทำให้ไฟลุกลามท่วมใบหน้า ทำให้นึกถึงคำโบราณบอกว่า อย่าเล่นกับไฟเล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสากสากตีหัวเล่นกับผัวเดี๋ยว ค ล อ ด ลูกไม่หยุดไม่หย่อนที่จริงเราถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าอย่าเล่นกับไฟ แสดงว่าไม่มีใครสอน
.
พระพยอม กล่าวต่อว่า พ ย า ย า มสร้างฟอร์มแต่ฟอร์มไม่ขึ้น ทำ แ บ บ นี้ เ สี ย ฟอร์ม อุตส่าห์ตั้งกล้องเพื่อจะสร้างฤทธิ์เดชสร้างฟอร์มคงจะต้องไปนั่ง เ จ็ บ ใจตั้งกล้องไว้อย่างดี เที่ยวนี้คิดว่าคงจะฟอร์มใหญ่ชื่อ เ สี ย ง ดั ง กระหึ่ม หาหลายแบบหลายวิธีเพื่อให้มีชื่อ เ สี ย ง พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ต้องมีความเพียรความขยันความมีปัญญา มันถึงจะทำให้ชื่อ เ สี ย งเกิดขึ้นได้
“ถ้าโง่ถ้าขี้เกียจเอาทางลัดเอาทางมักง่าย จะเป็น แ บ บ นี้ เดี๋ยวนี้พระมีการสร้างของขลังของ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ สร้างฤทธิ์สร้างเดชจำนวนมาก พระพุทธโฆษาจารย์สอนไว้ว่ามัวแต่หาฤทธิ์ จนพัดหลักถ้าอยู่กับหลักก็ไม่ต้องมาหน้าไหม้ ถูกไฟลวก ไม่ต้องไปเรียกคนด้วยฤทธิ์ด้วยเดช” พระพยอม กล่าว
#พระพยอม
#พระพ่นไฟ