
วันที่ 5 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าอาวาสวัดหัวยเรียน ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลาง อุท ย า น แ ห่ งชาติดอยขุนตาล ได้จาริกและนำสำรวจโบราณสถาน องค์เจดีย์ธาตุ บริเวณสันเขาแบ่งเขตระหว่าง ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง และ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน (ขุนน้ำแม่ต๋ำหลวง ถึง ขุนน้ำแม่ต๋ำน้อย) เมื่อวันที่ 1-3 ธ.ค.ที่ ผ่ า นมา จากการสำรวจพบมีองค์เจดีย์ธาตุตั้งอยู่ทั้งหมด 9 องค์ ตลอดแนวสันเขา ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์ 2 องค์ ที่เห ลื อ บางองค์มีสภาพชำรุด บางองค์มีสภาพผุพังเห ลื อ แต่ฐานองค์เจดีย์และพระพุทธรูปบรรจุ ภ า ย ใ น องค์เจดีย์ธาตุ
พระอธิการอนุชา ปญฺญาธโร เจ้าอาวาสวัดห้วยเรียน เปิดเผยว่า ในวัน ดั ง กล่าวได้เดินทางจาริก พร้อมกับพระลูกวัด รวม 2 องค์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจอุท ย า นฯ ดอยขุนตาล เพื่อเดินทางขึ้นไปสำรวจองค์เจดีย์ธาตุบนเขาสูง เขตติดต่อระหว่าง ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง และ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน หลังจากเมื่อ ปี 2562 ได้เดินจาริกขึ้นไปสำรวจมาแล้วครั้งหนึ่งพบแค่ 8 องค์ และครั้งนี้พบอีก 1 องค์ รวมเป็นองค์เจดีย์ธาตุที่พบ 9 องค์ใช้เวลา 2 คืน 3 วัน
โดยได้ออกเดินทางจากวัดห้วยเรียนเมื่อวันที่ 1 -3 ธ.ค.ที่ ผ่ า นมา ระยะทางจากวัดถึงที่ทำการอุท ย า นฯดอยขุนตาล 17 กม. และจากที่ทำการอุท ย า นฯ ขึ้นไปยังสันเขาสูงอีกประมาณ 8 กม.ต้องเดิน ผ่ า นป่าเขาที่สูง ลำน้ำ กลางป่าลึก เดินตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนถึงองค์เจดีย์ธาตุองค์แรกเวลา 16.00 น. ท่ามกลางอากาศร้อน แต่ก่อนเดินทางถึงองค์ธาตุเจดีย์ประมาณ 1 กม.ก ลั บ มีฝนตกลงมาอย่างหนัก
จากการสำรวจจุดแรกพบ 3 องค์ และล้มไปแล้ว 2 องค์ เห ลื อ องค์เดียวแต่สภาพชำรุด จุดที่ 2 พบอีก 3 องค์มีสภาพชำรุดเช่นเดียวกัน แต่ละจุดมีระยะห่างกันกว่า 1 กม. เรียงกันไปบนสันเขาสูง จนถึงองค์เจดีย์ธาตุองค์ที่ 9 ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ คาดว่าก่อสร้างเป็นองค์สุดท้ายและเหมือนเส้นทางสามแพร่งบนยอดเขาที่สามารถเดินทางลงไป จ.ลำพูน เชียงใหม่ และ จ.ลำปางได้
เจ้าอาวาสวัดห้วยเรียน กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบโดยรอบพบร่องรอยการก่อสร้างทั้งหินและดินแดงที่ใช้ทำอิฐ ที่บดหินและที่เผาอิฐคาดว่าไปตั้งฐานสร้างเจดีย์บนที่นี่เลยลักษณะเจดีย์แบบล้านนา สูงประมาณ 9 เมตร ฐานเป็นหินกว้างประมาณ 3 เมตร อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี แต่ยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาและจุดประสงค์ของการก่อสร้าง
แต่ชาวบ้านเล่าว่า เป็นฤาษีชื่ออ้าย ในเขตบ้านทุ่งกล้วย ทุ่งหก ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง หรือวัดเวียงทอง บ้านแม่ต๋ำ วัดทุ่งกล้วยไปสร้างไว้ อาจจะมีความเกี่ยวพันกับประวัติหมู่บ้านและวัด ดั ง กล่าว กำลังศึกษาข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร
พระอธิการอนุชา กล่าวอีกว่า ส่วนองค์เจดีย์ธาตุที่ชำรุด ภ า ย ใ น ฐานพบเป็นอุโมงค์ลึกประมาณ 1 เมตร และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ก่อสร้างด้วยหิน หักพังอยู่บนฐาน จึงได้ตั้งจิตขอขึ้นมาสำรวจใช้เวลาจาริกไปตามป่าเขาขึ้นเขาลงเขาตกน้ำก็มี หลังจากเวลาพลบค่ำก็นอนจำวัตรใกล้กับองค์เจดีย์ธาตุ
กลางคืนก็มี เ สี ย ง เ สี ย งกิ่งไม้หักแต่ไม่เห็นตัวคน แต่ความรู้สึกสัมผัสได้ คาดว่าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาหรือเจ้าที่ ดู แ ล องค์เจดีย์ ทางเจ้าหน้าที่อุท ย า นฯที่เคยขึ้นมาสำรวจครั้งแรก บางคนบอกว่านอนไม่ห ลั บ ทั้งคืน เพราะแขวนเปลนอนเหมือนมีคนมาแกว่งไกวเปลให้ทั้งคืนแต่เป็นความ เ ชื่ อ ส่วนบุคคล หลังจากนี้ไปจะดำเนินการอย่างไร ก็เป็นเรื่องของทางอุท ย า นฯดอยขุนตาล
เจ้าหน้าที่อุท ย า นฯดอยขุนตาล กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถทำ อ ะ ไ ร ได้ ถ้าจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวคงไม่ได้เนื่องจากเป็นเขตอุท ย า นฯและตั้งอยู่บนเขาสูง ป่ารก ถ้าเข้าไปต้องใช้เวลา ค้ า งคืน 2 วัน ไม่มีน้ำ และเป็นพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่บอบบาง ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที
ขณะที่ชาวบ้าน กล่าวว่า เคยได้ยินเรื่องราวคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่า มีคนใส่ชุดขาวขึ้นไปสร้าง ย า ยของตนยังได้ไปร่วมทำบุญกับท่านเลย ถ้าจำไม่ผิด ย า ยจะเรียกท่านว่า “ผ้าขาวอ้าย” ที่ขึ้นไปสร้าง ท่านมีความสามารถพิเศษที่อุ้มปูนขึ้นเขาไปเองและลงไปตักน้ำขึ้นมาทีละถังๆ สร้างจนสำเร็จ ข้างล่างจะเป็นศาลาเล็กๆ เป็นที่อยู่ของปู่ฤาษี ( ต อ น นี้ ไม่มีแล้ว)
ตอนสร้างได้หาบเอาปูนขึ้นไปสร้างขึ้นทางบ้านทุ่งหก กรมศิลปากร ช่วยค้นหาศึกษาเรื่องราวและอีกหลายๆ คนอ ย า กทราบเรื่องราวของสถานที่ แ ห่ งนี้ และ ต่ อ ย อดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ทั้งเชิงประวัติศาสตร์และเชิงธรรมชาติได้
#เจดีย์ธาตุ 9 องค์